หลาย ๆ คน คงฝันอยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองแต่คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์การทำธุรกิจด้านร้านกาแฟมาก่อน คงต้องมีคำถามเยอะแยะมากมายแน่นอนว่าในการเปิดร้านกาแฟ 1 ร้าน จะต้องเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบอะไรเบื้องต้นบ้าง เราจึงขอแนะนำอุปกรณ์ในการชงกาแฟและวัตถุดิบหลัก ๆ เบื้องต้นดังนี้
1. แก้วซอต (Shot Glass)
แก้วที่ใช้สำหรับการรองรับน้ำกาแฟจากเครื่องชง ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ่ ซึ่งจะให้ปริมาณแบบ 1 ชอตได้พอดิบพอดี สำหรับใครที่ต้องการเลือกซื้อ แนะนำว่าให้เป็นแก้วแบบใส ซึ่งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการชงกาแฟรสชาติอื่นๆ ได้อีกด้วย

2.ช้อนตักฟองนม (Spoon)
สำหรับช้อนชนิดนี้จะมีขนาดยาว และมีปลายช้อนที่เล็ก เหมาะสำหรับการตักฟองนมที่ผ่านการตีให้ไหลลงถ้วยได้ง่ายต่อการควบคุม เป็นช้อนที่เอาไว้ใช้สำหรับการชงกาแฟชนิดลาเต้ ที่จะช่วยสร้างสรรค์ศิลปะบนน้ำกาแฟให้ดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น

3.ภาชนะสำหรับเคาะกากกาแฟ (Knockbox)
อุปกรณ์สำหรับทิ้งกากกาแฟ ช่วยให้ง่ายต่อการชง หลังจากที่จะต้องทิ้งกากกาแฟใช้แล้วจาก Portafilter การเคาะจะช่วยให้กากกาแฟหลุดออกมาได้ง่ายและหมดจด ดังนั้นภาชนะที่ใส่ควรเป็นชนิดสแตนเลส เพื่อความคงทนในการใช้งาน ซึ่งต้องการเน้นความแข็งแรงเป็นพิเศษ

4.นาฬิกาจับเวลา (Shot Time)
นาฬิกาจับเวลาจะช่วยให้เรามั่นใจได้ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในทุกๆ ชอตที่ลงมือชง โดยจะมีการกำหนดเวลาสำหรับผงกาแฟ 7 กรัม ให้ไอน้ำดันที่มาจากน้ำร้อนดันตัวผ่านกาแฟบดที่ถูกอัดจนหยดออกมากลายเป็นกาแฟชอตรสเข้มข้น ซึ่งมาตรฐานส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 18-24 วินาทีต่อการชงใน 1 ชอต

5.เทอร์โมมิเตอร์ (Thermometer)
อุปกรณ์สำคัญสำหรับการชงกาแฟที่จะช่วยตรวจวัดอุณหภูมิเพื่อให้เครื่องดื่มในทุกๆ แก้วมีรสชาติที่ลงตัวและเหมาะสมเหมือนๆ กัน โดยทั่วไปเทอร์โมมิเตอร์ที่ได้มาตรฐานควรมีส่วนเอาไว้สำหรับหนีบ ซึ่งมักนิยมใช้ในการวัดอุณหภูมิของฟองนม ตัวหนีบจะหนีบบริเวณเหยือกของฟองนมเอาไว้ ส่วนของหน้าปัดต้องมีขนาดใหญ่ให้สามารถมองเห็นได้ชัดเพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อน มีหน่วยเป็นองศาฟาเรนไฮต์ที่สามารถวัดได้สูงสุดที่ 220 องศาฟาเรนไฮต์

6.อุปกรณ์กดผงกาแฟ (Hand Tamper)
เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะใช้กดผงกาแฟคั่วบดลงไปใน Portafilter ซึ่งมักจะนิยมใช้ในการชงกาแฟแบบเอสเปรสโซ่ รสชาติที่ได้และความเข้มขมที่จะถูกกลั่นออกมาจากแรงดันน้ำจะขึ้นอยู่กับความแน่นในการกดผงกาแฟบวกรวมกับความละเอียดของเนื้อตัวกากกาแฟ ยิ่งกดด้วยน้ำหนักมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้หยดของน้ำกาแฟที่ออกมาเข้มเต็มรสได้มากเท่านั้น

นอกจากอุปกรณ์ข้างต้นที่กล่าวมานี้ ยังมีอุปกรณ์เสริมอีกมากมายที่จะช่วยให้เหล่าบาริสต้าหรือผู้ที่สนใจการทำกาแฟนำมาเลือกใช้เพื่อความสะดวกสบาย และให้กาแฟที่ได้สมบูรณ์แบบมากขึ้นอย่างที่ต้องการได้