กำเนิดวัฒนธรรมกาแฟ (The Beginnings of Coffee Culture) กาแฟคือหนึ่งในผลผลิตจากธรรมชาติที่มีมูลค่าการซื้อขายในอันดับต้นๆ จะเป็นรองก็แต่น้ำมันเท่านั้น ซ้ำยังสามารถผลิตเเละบริโภคกันได้ทั่วโลก เชื่อกันว่าเมล็ดกาแฟสูงค่านี้ ถือกำเนิดอย่างบังเอิญในป่าแถบอัฟริกาตะวันออก การค้าขายและสำรวจโลกทำให้กาแฟแพร่สู่วัฒนธรรมต่างๆ เรียกว่าทั่วทั้งโลกก็ได้ ทุกวันนี้ มีการปลูกกาแฟในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ในพื้นที่ที่เรียกว่า “แถบแห่งเมล็ดกาเเฟ” (the bean belt) ถึงแม้จะยังไม่แน่ชัดว่าที่ไหนคือถิ่นกำเนิดของการบริโภคกาแฟ แต่มีความเป็นไปได้ว่าค้นพบกาแฟครั้งแรกในเอธิโอเปิย โดยเชื่อว่าช่วงก่อนปี ค.ศ. 1000 ชนเผ่าต่างๆ ในเอธิโอเปียเริ่มบดผลกาแฟทั้งเมล็ดผสมกับไขมันสัตว์ ทำเป็นอาหารบำรุงกำลังคล้ายธัญพืชอัดแท่งอย่าง “เอเนอร์จีบาร์” เพื่อให้มีพลังในการล่าสัตว์หรือเดินทางไกล ชนเผ่าเร่ร่อนบางเผ่ายังกินอาหารนี้อยู่จนถึงทุกวันนี้ อีกตำนานที่โจษขานกันมากเรื่องหนึ่งเล่าว่า มนุษย์รู้จักกาแฟโดยบังเอิญ เมื่อหนุ่มเลี้ยงเเพะชาวเอธิโอเปียพบว่าเเพะของเขากระโดดโลดเต้นไม่รู้เหน็ดเหนื่อย หลังเคี้ยวพืชประหลาดชนิดหนึ่งเข้าไป เมื่อเขาลองชิมด้วยตัวเองก็รู้สึกมีพลังขึ้นมา หนุ่มเลี้ยงแพะจึงนำพืชวิเศษนี้กลับไปเผยแพร่ที่เผ่า คนก็ร่ำลือกันต่อๆ…
มาตรฐานเมล็ดกาแฟอราบิก้าดิบของไทย
มาตรฐานเมล็ดกาแฟอราบิก้าดิบของไทย ดูจากอะไรบ้าง การจัดหา จัดซื้อกาแฟคั่วบด หรือ กาแฟสด นอกจากพิจารณาจากกลิ่นหอม และ รสชาติ และแหล่งปลูก ยังต้องพิจารณามาตรฐานอะไรบ้าง วันนี้เรามีหลักการพิจารณาเพื่อให้ได้กาแฟคุณภาพ ดังนี้ 1.ชนิดพันธุ์ หรือ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ตลาดกาแฟโลก มีสัดส่วนการค้ากาแฟอราบิก้า อยู่ร้อยละ 70-80 ส่วนที่เหลือร้อยละ 20-30 เป็นกาแฟโรบัสต้า โดยภาพรวมกาแฟอราบิก้า จัดเป็นกาแฟที่มีกลิ่นและรส (Aroma and Flavour) หอมหวน มีความเป็นกรดเปรี้ยวแบบผลไม้ (Acidity) มากกว่ากาแฟโรบัสต้า 2.แหล่งกำเนิดตามประเทศหรือพื้นที่ของประเทศ รวมทั้งเขตภูมิภาคที่ปลูกพื้นที่ปลูกกาแฟในแต่ละแหล่งมีสภาพภูมิอากาศ ที่แตกต่างกันทำให้ผลผลิตกาแฟมีคุณภาพเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ผลผลิตจากพื้นที่เคยเป็นภูเขาไฟของอเมริกาใต้จากอมริกากลาง จากอาฟริกาตะวันออก และ จากเอเซีย เป็นต้น…
การเลือกชงกาแฟ
การชงกาแฟมีหลากหลายวิธี ซึ่งสามารถแบ่งเป็นประเภทตามการให้น้ำกับกากกาแฟ ได้สี่ประเภทหลักๆ การต้มเดือด : กาแฟตุรกี วิธีการดั้งเดิมในการชงกาแฟ ซึ่งยังคงใช้อยู่ในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ ตุรกี และกรีซ ได้แก่การต้มผงกาแฟละเอียดเข้ากับน้ำในหม้อคอคอด และปล่อยให้เดือดเล็กน้อย บางครั้งก็จะเติมน้ำตาลเข้าไปในหม้อด้วยเพื่อเพิ่มรสหวาน และยังเพิ่มรสและกลิ่นด้วยกระวาน (cardamom) ผลที่ได้คือกาแฟเข้มข้นถ้วยเล็กๆ มีฟองอยู่ข้างบน และกากกาแฟกองหนาเหมือนโคลนอยู่ที่ก้น การใช้ความดัน : เอสเพรสโซ ถูกชงด้วยน้ำเดือดอ้ดความดัน และมักเป็นพื้นฐานนำไปผสมกาแฟหลายๆ ชนิด กาแฟชนิดนี้เป็นหนึ่งในประเภทที่แรงที่สุดที่ดื่มกันโดยทั่วไป และมีรสชาติและความมันที่เป็นเอกลักษณ์ เครื่องชงกาแฟแบบใช้น้ำร้อนซึม มีลักษณะแบ่งออกเป็นสามส่วน โดยส่วนล่างใช้สำหรับต้มน้ำ เพื่อให้ไอลอยขึ้นไปยังกากกาแฟซึ่งอยู่ในส่วนตรงกลาง น้ำกาแฟที่ได้ ซึ่งมักมีความเข้มข้นระดับเดียวกับเอสเพรสโซ จะถูกเก็บอยู่ในส่วนบนสุด ส่วนที่มักวางติดกับเครื่องอุ่นหรือเตา เครื่องบางแบบยังอาจมีฝา 5 แก้วหรือพลาสติกใสเพื่อเอาไว้ดูกาแฟตอนที่มันลอยขึ้นข้างบน การใช้แรงโน้มถ่วง :…
โทษของการดื่มกาแฟที่มีผลเสียต่อสุขภาพ
โทษของการดื่มกาแฟที่มีผลเสียต่อสุขภาพ 1.เพิ่มระดับความดันโลหิตให้สูงมากขึ้นการดื่มกาแฟจะทำให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นนานถึง 12 ชั่วโมง ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในตอนเครียดๆ หรือช่วงที่ร่างกายมีภาวะความกดดันมากเป็นพิเศษ 2.คาเฟอีนจะมีผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุคาเฟอีนในกาแฟจะขัดขวางการดูดซึมของแร่ธาตุบางชนิด เช่น แคลเซียม สังกะสีและเหล็กสำหรับผู้ที่ต้องการให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีเพียงพอ จึงควรพยายามหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ 3.ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารหนักขึ้นโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร ควรดื่มกาแฟอย่างระมัดระวังจะดีที่สุด เพราะกาแฟจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำย่อยออกมามากขึ้น จึงเป็นผลทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ โดยเฉพาะเวลาท้องว่าง 4.เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุนเนื่องจากคาเฟอีนมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการขับปัสสาวะ หากดื่มกาแฟติดต่อกันเป็นเวลานาน ย่อมทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียม จนนำมาสู่ความเสี่ยงของภาวะการเกิดโรคกระดูกพรุน 5.หญิงตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งบุตรหรือร่างกายทารกไม่สมบูรณ์เพราะหากดื่มกาแฟมากจนเกินไปอาจส่งผลทำให้ทารกเจริญเติบโตแบบผิดปกติ หรือเพิ่มโอกาสในการแท้งได้สูงขึ้น เพราะคาเฟอีนจะก่อให้เกิดผลกระทบยังอวัยวะภายในของทารกที่กำลังบอบบางอยู่นั่นเอง 6.มีผลกระทบต่อการดูดซึมวิตามิน B1วิตามิน B1 เป็นวิตามินที่มีคุณสมบัติช่วยรักษาสมดุลและความมั่นคงเกี่ยวกับระบบประสาทภายในร่างกาย เพราะฉะนั้น ผู้ที่ร่างกายขาดวิตามิน B1 อยู่แล้วจึงควรงดดื่มกาแฟ ไม่เช่นนั้นคาเฟอีนจะยิ่งเข้าไปขัดขวางกระบวนการดูดซึมของวิตามินดังกล่าวให้ทำงานบกพร่องมากขึ้นได้ 7.ผู้ป่วยโรคหัวใจ หัวใจจะยิ่งเสื่อมเร็วสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ไม่ควรดื่มอย่างยิ่ง เพราะคาเฟอีนจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของหัวใจทำให้มีเลือดปริมาณสูงขึ้น 8.นอนหลับไม่เต็มที่ขณะที่เรานอนหลับ…