หลาย ๆ คนคงรู้จักสารที่มีชื่อว่า คาเฟอีน ที่อยู่ในกาแฟกันอย่างแน่นอน แต่คงไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วสารคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟนั้น จะมีหน้าตาคล้ายกันสารตัวหนึ่งในร่างกายที่มีชื่อว่า อะดีโนซีน ที่เป็นตัวที่ทำให้เรารู้สึกง่วงนอน อ่อนเพลีย ไม่พร้อมต่อการทำงาน ดังนั้นเมื่อเราดื่มกาแฟเข้าไปก็จะได้รับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายด้วยเช่นกัน แล้วคาเฟอีนนั้นจะไปขัดขวางอะดีโนซีน จึงเป็นผลทำให้เรารู้สึกตื่นตัว ไม่ง่วงนั่นเอง แต่ในบางคนที่รู้สึกใจสั่น มือสั่นเมื่อดื่มกาแฟ อาจจะเกิดเพราะคาเฟอีนนั้นก็ไปกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีนด้วย เลยทำให้เราเกิดอาการตื่นเต้น ใจสั่น แต่ส่วนมากอาการเหล่านี้จะพบได้ในคนที่ดื่มกาแฟหรือรับคาเฟอีนมากกว่าปกติ และได้มีการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของกาแฟหรือคาเฟอีนที่จะส่งผลดีต่อร่างกาย เช่น
การดื่มกาแฟ 1 แก้วที่มีคาเฟอีน 80 มิลลิกรัมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับรถเป็นเวลานาน
การดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีน 200 มิลลิกรัมช่วยให้ตื่นตัวได้ 3 – 6 ชั่วโมง แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคน
การดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีน ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังชนิดได้
ดื่มได้กี่แก้วนะ
คงเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนที่หลงรักกาแฟสงสัยว่าตกลงแล้วในวันนึงเราจะสามารถดื่มกาแฟได้กี่แก้วกัน ซึ่งได้มีการระบุคำแนะนำของปริมาณคาเฟอีน ควรได้รับไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเมื่อนำมาเทียบกับปริมาณของคาเฟอีนในกาแฟจะสามารถบอกได้ว่าในวันนึงจะดื่มกาแฟได้ ดังนี้ดูซีรี่ย์ไทย
กาแฟดำ 3 – 4 แก้วชง ต่อวัน (คาเฟอีนประมาณ 80 มิลลิกรัม ต่อแก้ว โดยใช้กาแฟดำ 1 ช้อนชาต่อแก้ว)
กาแฟสด 3 – 4 แก้ว ต่อวัน (คาเฟอีนประมาณ 100 มิลลิกรัม ต่อแก้ว)
กาแฟกระป๋องไม่เกิน 2 กระป๋อง ต่อวัน (คาเฟอีนประมาณ 150 – 160 มิลลิกรัม ต่อกระป๋อง)
แล้วถ้าหากเราดื่มกาแฟมากกว่านี้ หรือ ได้รับปริมาณคาเฟอีนมากกว่า 300 – 400 มิลลิกรัมต่อกรัมอาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการใจสั่น กระวนกระวาย หรือนอนไม่หลับได้เลย และในหญิงตั้งครรภ์ที่ดื่มกาแฟมากหรือคาเฟอีนมากกว่า 300 มิลลิกรัมก็อาจทำให้เกิดการแท้งบุตรได้
เท่านี้ทุกคนก็รู้แล้วว่าวันนึง ดื่มกาแฟ ได้กี่แก้วโดยวันนึงเราสามารถดื่มกาแฟได้โดยสามารถเลือกเป็น กาแฟดำ 3 แก้ว กาแฟสด 3 แก้ว หรือกาแฟกระป๋อง 2 กระป๋อง หรือ ดื่มกาแฟให้ได้ในปริมาณคาเฟอีนในแต่ละวันไม่เกิน 300 มิลลิกรัมเพื่อความปลอดภัย ซึ่งการดื่มกาแฟให้ดีที่สุดคือดื่มในช่วงสายหรือบ่ายของวัน แต่ควรงดการดื่มกาแฟก่อนนอนเป็นเวลาประมาณ 4 – 6 ชั่วโมงเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการนอนนั่นเอง สุดท้ายคือการเลือกเครื่องดื่มกาแฟที่ดี ควรเลือกกาแฟที่มีปริมาณน้ำตาลที่น้อย และลดการใส่ครีมเทียม นมข้นหวาน เพื่อให้ดีต่อสุขภาพมากที่สุดนั่นเอง
