เจาะลึกกาแฟคั่วเข้มที่ครองใจคนไทยมาอย่างช้านาน ร้านกาแฟหลายๆ ร้านมักจะมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลายรูปแบบและเมล็ดกาแฟคั่วเข้มก็มักจะเป็นกาแฟตัวเลือกแรกๆ ที่ร้านกาแฟจะต้องมีติดร้านไว้ ซึ่งคนไทยหลายคนก็ชื่นชอบรสชาติของกาแฟคั่วเข้มเป็นอย่างมากนะแต่ถ้าจะถามถึงเหตุผลว่าทำไม บทความนี้เราจะมาเจาะลึกกัน
ขั้นตอนกระบวนการคั่ว
กาแฟคั่วเข้มผ่านกระบวนการคั่วที่นานกว่าเมื่อเทียบกับระดับการคั่วอื่นๆ ซึ่งความร้อนที่ผ่านเมล็ดกาแฟมากขึ้นนั้นส่งผลให้เมล็ดมีการ Develop ที่นานขึ้นส่งผลให้ ลักษณะของเมล็ดเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนจากสีเขียวกลายมาเป็นสีน้ำตาลเข้ม และอาจจะมีน้ำมันออกมาเคลือบเมล็ด ที่จะเป็นลักษณะของเมล็ดกาแฟคั่วเข้มนั่นเอง
ในการคั่วจะเกิดการกระบวนการคาราเมลไลซ์ (Caramelize) หรือการแตกตัวของน้ำตาลนั่นเองสิ่งนี้จะพัฒนาเมล็ดจากที่มีรสเปรี้ยวให้ค่อยๆ มีความหวานมากขึ้นในที่สุด นี่จึงเป็นที่มาที่ว่าเมล็ดกาแฟคั่วเข้มมีรสชาติที่หวานและซับซ้อนกว่าเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน และอีกผลลัพธ์ที่ได้จากการะบวนการนี้คือเมล็ดกาแฟระดับคั่วเข้มจะตัดรสชาติเปรี้ยวออกไปจนเกือบหมด ซึ่งส่งผลให้เมล็ดมีลักษณะที่สีเข้มขึ้นและเป็นมันเงาและมีกลิ่นของกาแฟที่ชัดเจนและมีรสชาติเข้มข้นที่มากกว่ากาแฟคั่วอ่อนนั่นเอง
ปริมาณคาเฟอีน
หลายคนคงจะคิดว่ากาแฟคั่วเข้มจะมีคาเฟอีนที่สูงกว่ากาแฟคั่วอ่อนซึ่งที่จริงนั้นเป็นความเชื่อที่ผิด กาแฟคั่วเข้มไม่จำเป็นต้องมีคาเฟอีนมากกว่ากาแฟคั่วอ่อน แม้ว่ากระบวนการคั่วอาจลดปริมาณคาเฟอีนลงเล็กน้อย แต่ความแตกต่างนั้นไม่มีนัยสำคัญ ดังนั้น กาแฟคั่วเข้มจึงไม่ได้มีคาเฟอีนมากกว่ากาแฟคั่วอ่อนแต่อย่างใด
ประโยชน์ต่อสุขภาพของกาแฟคั่วเข้ม
กาแฟคั่วเข้มมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีประโยชน์และสามาถพบในผลไม้บางชนิดรวมถึงกาแฟด้วยเช่นกัน กาแฟนั้นช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้เชื่อมโยงกับประโยชน์ต่อสุขภาพต่างๆ รวมถึงการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและมะเร็งบางชนิด และช่วยในการเผาผลาญพลังงานด้วยทำให้กาแฟมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ต้องเป็นกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาลนะ